จากภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพชนคนอีสาน ที่อาศัยอยู่นนเทือกเขาภูพาน จังหวัดสกลนคร ในการนำ “หมากเม่า” มาคั้นเพื่อดับกระหายคลายร้อน แก้ร้อนใน และถอนพิษไข้ พัฒนาสู่คนรุ่นใหม่ที่เล็งเห็นคุณค่าของหมากเม่า ต่อมาได้รันการสนับสนุน มีการศึกษาค้นคว้า และวิจัยถึงคุณลักษณะและประโยชน์ของหมากเม่าอย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรกในปี 2538 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากคุณค่าทางโภชนาการของหมากเม่าสู่สาธารณะ จึงได้ก่อตั้งชมรมหมากเม่าสกลนคร ประกอบด้วยเกษตรกรผู้ปลูกเม่า ผู้รวบรวมวัตถุดิบ และผู้ผลิตครบวงจร และหากพูดถึง “หมากเม่า” ต้องนึกถึงเทือกเขาภูพาน จังหวัดสกลนคร ซึ่งนับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอีกอย่างก็ว่าได้ พบได้มากที่เทือกเขาภูพาน
วิสาหกิจชุมชนแปรรูปน้ำผลไม้โนนหัวช้าง ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2548 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำผลผลิตทางการเกษตรในชุมชนบ้านโนนหัวช้าง อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร มาแปรรูปเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพจากผลไม้ท้องถิ่น ได้แก่ น้ำเม่า น้ำสมอไทย และน้ำมะขามป้อม โดยมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร เป็นหน่วยงานหลักที่ช่วยสนับสนุนทางด้านวิชาการ ต่อมาผลิตภัณฑ์แปรรูปของวิสาหกิจฯ เริ่มเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคมากขึ้น จึงได้ขยายกำลังการผลิตและจดทะเบียนนิติบุคคลเป็น “ห้างหุ้นส่วนจำกัดน้ำผลไม้ภูพานช้างพลังสอง” เมื่อปี พ.ศ. 2556 โดยมุ่งเน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อและรักสุขภาพเป็นหลัก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ได้แก่ น้ำเม่าพร้อมดื่ม ไวน์เม่า แยม น้ำเม่าเข้มข้นที่อุดมด้วยสารออกฤทธิ์ชีวภาพทั้งวิตามินซี และสารแอนโทไซยานิน และจากงานวิจัยพบว่า น้ำเม่าที่มีสารประกอบ ฟีนอลิก เป็นสารที่มีการต้านอนุมูลอิสระสูง ป้องกันโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้รับการคัดสรรเป็นสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาว